@@..คำครู ผู้ชี้-นำ-อุปถัมภ์ สู่พระโพธิญาณ & เรื่องเล่าจากกัลยาณมิตร.@@

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 10 กรกฎาคม 2015.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385
     
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385
    ?temp_hash=b48837e70bd3e0bfb7eb94ef5bacd2dd.jpg




    1f49c.png 1fa77.png สู้กับไสยศาสตร์ 1fa77.png 1f49c.png
    ถาม : ....(เกี่ยวกับคำภาวนา สัมปฎิจฉามิ, สัมปจิตฉามิ และการป้องกันไสยศาสตร์)…?
    ตอบ : การภาวนาคาถา สัมปฏิจฉามิ
    "สัมปฏิจฉามิ" แปลว่า สำเร็จทุกอย่าง ใช้ได้กับเรื่องที่ต้องการสำเร็จ ให้ว่าไปเลย..ได้ทั้งนั้น
    เรื่องของการทำไสยศาสตร์จริง ๆ ไม่น่ากลัว เหตุที่ไม่น่ากลัว เพราะกำลังใจของเขาตั้งใจจะเบียดเบียนคนอื่น ในเมื่อตั้งใจเบียดเบียนคนอื่น เขาจะเข้าไม่ถึงจุดสุดท้ายของสมาธิ เพราะว่าจุดสุดท้ายของตัวสมาธิ จะมีตัวอุเบกขาอยู่ ถ้าตั้งใจจะเบียดเบียนคนอื่น กำลังใจก็ไม่เป็นอุเบกขา
    ถ้าหากว่าเราตั้งใจภาวนาอยู่เป็นปกติ อารมณ์ใจแค่เกินอุปจารสมาธิไปนิดเดียว จะไม่มีไสยศาสตร์อะไรทำอันตรายเราได้เลย แต่ต้องไม่เผลอ
    ถ้าหากแก้กันตามสายของหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านให้ปลุกยันต์เกราะเพชรขึ้นมา จะสะท้อนไสยศาสตร์กลับไปหมด
    อีกอย่างหนึ่งท่านให้นึกถึงพระพุทธเจ้ามีพระนามว่า "เรวัตตะ" สมัยของท่านจะมีพวกทำไสยศาสตร์เหมือนกัน บางครั้งคนฟังเทศน์อยู่ดิ้นพลาด ๆ กลางศาลาเลยก็มี เพราะฉะนั้น..พระองค์ท่านจะมีความชำนาญในด้านนี้อยู่มาก ท่านแนะนำว่าให้นึกถึงพระพุทธเจ้ามีพระนามว่า เรวัตตะ แล้วตั้งใจภาวนาว่า "สัมปจิตฉามิ" เมื่อใครกลั่นแกล้งเราก็จะมีอันเป็นไปเอง
    ถ้าเจอวิธีนี้ เขาก็คงเข็ดไปอีกนาน ทำเมื่อไรตัวเองโดน
    สมเด็จพระพุทธเจ้าเรวัตตะทศพลสัมมาสัมพุทธเจ้า "เรวัตโต รติวัฑฒโน" ผู้มีราตรีอันเจริญ คือมีสติอยู่เสมอ ราตรีเจริญ อยู่กับสมาธิกันทั้งวันทั้งคืน มีสติอยู่ตลอดเวลา
    พวกบรรดาสำนักต่าง ๆ ที่เขาแก้ไขเรื่องไสยศาสตร์ให้ ก็ไม่ค่อยน่าไว้ใจ เพราะว่าเขาเอาออกได้ เขาก็ใส่คืนได้ บางครั้งจะอยู่ในลักษณะที่ครอบเราเอาไว้ ให้เราหาประโยชน์ให้เขาตลอดไป
    ถาม : อย่างนี้แล้วเราอยากทราบว่าใครทำจะได้ไหมคะ ?
    ตอบ : ต้องถามเขา โดยมารยาทแล้วเขาก็บอกไม่ได้ ที่เขายอมช่วยเราก็ถือว่าเต็มที่แล้ว
    ของพระเราต้องยอมรับกฎของกรรม..ใช่ไหม ? ทางด้านโน้นเขายอมช่วยเรา เขาก็เสี่ยงมากแล้ว ถึงขนาดไปเปิดเผยตัว ถือว่าเป็นการประกาศตัวเป็นศัตรูโดยตรง เดี๋ยวลำบาก
    มีอยู่ครั้งหนึ่งอาตมาไปหาพระของวัดเขาอ้อ จะเอามาทำน้ำมนต์แก้พวกนี้ พวกทำไสยศาสตร์เขามีความสามารถสูงจริง ๆ ถึงเวลาเราไปช่วยเขาแค่ครั้ง สองครั้ง เขาจะรู้เลยว่าเป็นเรา แล้วต่อไปเขาจะทำใส่เราแทน..!
    ถาม : โดยที่เราไม่ได้ทำคืนเขา ๆ จะทราบเลย ?
    ตอบ : จ้ะ..เขาจะรู้เลย เมื่อเขาทำคนอื่นไม่ได้เพราะเราไปช่วยไว้ เขาก็ทำใส่เราแทน
    อาตมาตั้งใจจะเบี่ยงประเด็น การเอาพระของวัดอื่นมาทำน้ำมนต์ กระแสก็จะเป็นของสำนักนั้น ถึงเวลาเขาจับได้ก็ไปถล่มสำนักนั้นเอง ไม่เกี่ยวกับเรา แต่นั่นขี้โกงไปหน่อย ตั้งแต่เอาพระของสำนักเขาอ้อมา ยังไม่เคยใช้เลย เพราะว่าตัวเองยังพอรับไหว
    .....................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน

    ที่มา https://l.facebook.com/l.php?u=http://www.watthakhanun.com/?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTAAAR14lTnUL9ID9X79WIS55Cckry2GduFzH4BVgzT74CUk_BhGCRJJXfwgG4E_aem_R-Y5izjYs7xHMM2YdE-nQg&h=AT0-GMADmtCltDhycJtlXOvQ_AgkJMifOGXwdW_sbuFn_H5mG2F1aIAJoC9ImR5TT1VYmT1LZDu3K07GjUZ22yuydemxx5ZJbTntRSQrKiIWI5L41Zkv41o01AZK9TeqcKpu&__tn__=-UK-R&c[0]=AT0Onkk0eb1XNOlHK7uYyPVUEiaQU5RsfczFmhL05DzqcMXRDlL05FtNQgphgFqiRW3hqFeGRcOf0QwnleIrDCtE-CQ1bmrMwZKdfyQBYyZDbboU07j0cfvxcKF2FTYI0FN_4UHLkrv6iOZfyEG1DZfjoFNEFmR2YSv42u8HK034XYUwSy09FSgVY4v9eZrHj58YGfv5PDt2TDdBxg9SdXB27ysvtIF3M9juRoiCMEM2Eo9s6T4NI4GS3Q
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2024
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385
    bBwYXcVmAvHle_XOYMzO3yqppiH12&_nc_ohc=wEPVW50pgmMQ7kNvgEQ-lUg&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385
    ?temp_hash=49e204f1f8a0d8dbfb96554df06725b5.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385
    ใครกระทำความผิดศีล ผิดธรรม ด้วยมิจฉาทิฐิอย่างนี้ แม้มีชีวิตอยู่ในภพชาตินั้น ก็ยังจะได้รับโทษเป็นความทุกข์เดือดร้อน จากผลของกรรมนั้น มีโอกาสสูงมากที่จะได้รับทั้งๆที่อยู่ในภพชาติปัจจุบันนี้ หนีกรรมไม่พ้น

    และแตกกายทำลายขันธ์แล้ว ต้องรับโทษจากกรรมที่ทำ ต้องไปเกิดเป็นสัตว์นรกในชั้นต่างๆตามกรรม ชั้นสุดท้ายก็คืออนันตริยกรรม ผู้มิจฉาทิฐิน่ะไปได้รับโทษตรงนั้นก่อน และพ้นจากนั้น พ้นนี่..ไม่ได้ว่าพ้นหมดนะ มิจฉาทิฏฐิยังอยู่ นั่นแหละ นำไปสู่ความบังเกิดขึ้นในอายตนะโลกันต์

    สัตว์โลกที่เป็นไปอย่างนี้ ด้วยมิจฉาทิฏฐินี่ เป็นกรรมหนักยิ่งกว่าอนันตริยกรรม รับผลก่อนทั้งหมด พอไปถึงโลกันตนรกดังที่ได้กล่าวแล้ว เมื่อเป็นสัตว์นรกนี่ ต้องตกลงไปในทะเลน้ำกรดแล้วๆเล่าๆ นานเท่านาน เพราะฉะนั้น เชื้อแห่งคุณความดีที่เคยทำในระดับมนุษยธรรม ถูกกัดกินละลายหายไปๆๆ จนไม่สามารถที่จะเป็นเหตุปัจจัยปรุงแต่งให้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ในภพสามอีก มนุษย์ก็คือในกามภพ ในโลกมนุษย์อีกไม่มี

    อย่างดีก็แค่มาเกิดเป็นสัตว์ชั้นต่ำ สัตว์เซลล์เดียว เช่น พวกไฮดรา อะมีบา พวกเชื้อโรค พวกไวรัสต่างๆ นี่..มาจากนี้ส่วนมาก

    และถ้าร้ายกาจไปกว่านั้น
    ก็จะไปเป็นธาตุธรรมของภาคมาร
    ที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับภาคพระ คือพระนิพพาน อยู่ตรงกันข้ามกัน

    1f514.png อันนี้ให้เข้าใจ ที่อาตมายกตรงนี้มากล่าว เพื่อจะให้เข้าใจว่า ขณะนี้ในประเทศชาติของเรา ชื่อว่าเป็นเมืองพุทธ แต่คนไม่รู้บาปบุญคุณโทษมากขึ้น เพราะไปรับเอาความเจริญทางวัตถุมาบำบัด หรือมาสนองความต้องการของตน และก็หลงเพลิดเพลินติดอยู่ในทรัพย์สมบัติ ในอำนาจราชศักดิ์ต่างๆ จนมีผลให้ตนเองมีความเห็นผิด แล้วไปคิดทำลายล้างผู้อื่น ให้เกิดโทษ เกิดความทุกข์เดือดร้อน อยู่ในยุคปัจจุบันนี้มากมาย

    1f514.png ก็เพื่อให้ทราบว่า ให้ท่านระวัง ความเป็นมิจฉาทิฐิ ไม่ใช่เกิดอยู่กับเฉพาะคนนอกศาสนาที่หลงผิดไป คนนอกศาสนาที่พอจะเข้าใจถูกก็มีนะ แต่ที่หลงผิดไปก็มี แต่..ในพุทธของเราที่หลงผิดไปก็มี เป็นมิจฉาทิฐิได้ และก็เป็นไปอย่างนั้นด้วย

    1f514.png อย่าไปทนงว่า พอขึ้นชื่อว่าเป็นพุทธแล้ว เป็นมิจฉาทิฐิไม่ได้ ไม่จริง!! คิดอย่างนั้น ทําอย่างนั้น ก็เป็นอย่างนั้น เหมือนปลูกมะพร้าว ออกลูกมาเป็นมะพร้าวแน่นอน มันไม่ออกมาเป็นลูกหมาก หรือมาเป็นอะไรๆอย่างอื่น มะม่วงอะไรอย่างนี้ ไม่ได้!! ฉันใดฉันนั้น

    หลวงป๋า

    mmKn1A0D3NFh6nwkcfZP4D47UojAIo&_nc_ohc=NgInsbdhE5wQ7kNvgGmT1gz&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...