เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 24 พฤษภาคม 2025 at 16:39.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,929
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,755
    ค่าพลัง:
    +26,620
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,929
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,755
    ค่าพลัง:
    +26,620
    วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ช่วงเช้าวันนี้ การบิณฑบาตตามโครงการ "วันเสาร์ใส่บาตรตลาดริมแคว ยลวิถีเมืองท่าขนุน" สำเร็จเรียบร้อยลงด้วยดี

    คำว่าสำเร็จเรียบร้อยลงด้วยดีก็คือไม่โดนฝน ทั้ง ๆ ที่ตอนเริ่มเดินบิณฑบาต เมฆก็ดำติดหัวมาแล้ว..! หลังจากที่กลับมาและฉันเช้าแล้ว ก็ยังมีงานฉลองผู้ที่สอบได้ประโยคบาลีประจำปี ๒๕๖๘ ในสังกัดสำนักศาสนศึกษาวัดท่าขนุน ซึ่งจัดโดยคณะครูผู้สอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีวัดท่าขนุน นำโดยพระมหาจักรพงษ์ ปญฺญาทีโป ป.ธ. ๖ อาจารย์ใหญ่ประจำสำนักศาสนศึกษาแผนกบาลีวัดท่าขนุน

    ในเรื่องของการรับพระราชทานตั้งเป็นมหาเปรียญนั้น กระผม/อาตมภาพที่เป็น "คนโบราณ" ถือว่าเป็นเรื่องมงคลใหญ่ของชีวิต ควรค่าแก่การภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับตัวกระผม/อาตมภาพเองนั้น เมื่อได้รับพระราชทานผ้าไตรจากเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ตอนแรกก็เก็บบูชาขึ้นหิ้ง ไม่กล้าที่จะใช้ แต่ได้รับการเตือนจากพระเถระเจ้าคณะปกครองว่า "พระองค์ท่านหวังบุญหวังกุศลจึงได้ถวายมาให้ ขอให้ใช้ฉลองเป็นพระราชกุศลด้วย" ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงต้องใช้ด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง โดยเฉพาะถึงเวลาตาก จะไม่ให้ต่ำอย่างเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นของมงคลสูงสุดในชีวิตประการหนึ่ง

    ดังนั้น..ในส่วนของพระภิกษุผู้สอบได้ประโยคบาลีของสำนักศาสนศึกษาแผนกบาลีวัดท่าขนุน จึงพึงสังวรว่า เราได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สิ่งหนึ่งประการใดซึ่งเป็นการกระทำแล้วฉลองพระเดชพระคุณได้ เราต้องทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

    ต้องรำลึกอยู่เสมอว่า พระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานลงมานั้น เป็นสิ่งมงคลสูงสุดแก่ทั้งตนเองและครอบครัว เป็นสิ่งที่จะชี้นำชีวิตของเราให้เดินไปในทางที่ดี ในทางที่ถูก ก็คือเดินไปตามครรลองพระธรรมวินัย ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตั้งเอาไว้ จึงจะสมกับที่พระองค์ท่านทรงมีพระราชศรัทธา แต่งตั้งให้เป็นพระมหาเปรียญ ถือว่าเป็นการได้รับการยกย่องจากเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ผู้เป็นใหญ่ในประเทศของเรา เป็นเรื่องที่เป็นมงคลและหาไม่ได้อีกแล้ว
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,929
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,755
    ค่าพลัง:
    +26,620
    เรื่องต่อไปที่อยากจะพูดถึง บางทีก็อาจจะเป็นเรื่อง "หัวจะปวด" ในวงการสงฆ์ของเรา ก็คือทางคณะสงฆ์ธรรมยุต มีประกาศห้ามการสวดปาฏิโมกข์เป็นภาษาไทย พูดง่าย ๆ ก็คือให้สวดตามประเพณีนิยมเป็นภาษาบาลีต่อไป เนื่องเพราะว่ามี "วัดดัง" บางแห่ง ซึ่งมีลูกศิษย์มาก ท่านอาจจะ "คิดน้อยไปหน่อย" ในเรื่องของประเพณีที่ยึดถือสืบ ๆ กันมาหลายร้อยหลายพันปี จึงได้ตั้งใจสวดปาฏิโมกข์เป็นภาษาไทย โดยใช้อัตโนมติ ก็คือความคิดความเห็นเฉพาะตัวว่า เป็นเรื่องที่ดี ที่เหมาะ ที่ควร แก่ยุคสมัยมากกว่า

    แต่ในเมื่อไม่ใช่เรื่องที่คณะสงฆ์ท่านเห็นด้วย จึงมีประกาศออกมาในลักษณะแบบนี้ ซึ่งก็คงจะก่อให้เกิด "ดราม่า" กันอีกไม่น้อย เนื่องเพราะว่าท่านก็มีบริวารยศ ก็คือลูกศิษย์มาก ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสามเณรหรือว่าฆราวาส กลายเป็นสร้างความแตกแยกขึ้นในวงการสงฆ์ ถ้าหากว่าท่านประกาศตัวแยกออกไปทำสังฆกรรมเองเมื่อไร ก็จะกลายเป็นก่อให้เกิดสังฆเภทในหมู่สงฆ์ของเราทันที เป็นเรื่องที่อันตรายสุด ๆ เพราะว่าคนที่ทำสังฆเภทนั้นมีทุคติ คืออเวจีมหานรกเป็นที่ไปอย่างเดียวเท่านั้น..!

    ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง พรรคพวกเพื่อนฝูงส่งมาให้จากจังหวัดราชบุรี เป็น "ดราม่าพระชงกาแฟ" แต่ด้วยความที่ว่าพระท่านหน้าตาดีไปหน่อย ก็เลยมีพวกสิ้นสติไปคอมเมนต์ประมาณว่า "อยากจะกินกาแฟด้วย อยากจะกินคนชงกาแฟด้วย..!" ในลักษณะแบบนี้ก็คือการคอมเมนต์แบบขาดสติ "ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง" ไม่รู้ว่าอะไรเป็นปูชนียบุคคล ไม่รู้ว่าอะไรคือปุถุชน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จะไปหวังอะไรกับบุคคลในพุทธศาสนาของเรา ว่าจะช่วยกันสร้างความเจริญ ไม่ช่วยกันถล่มให้พระพุทธศาสนาจมดินลงไปก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว..!

    กระผม/อาตมภาพเองอยู่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ต้องถือว่าโชคดีมาก ๆ เนื่องเพราะว่าชาวพุทธในที่นี้ ส่วนใหญ่นั้นก็คือพี่น้องมอญ พม่า กะเหรี่ยง ซึ่งมีความเคารพในพระพุทธศาสนาแบบเก่า ๆ ก็คือยึดมั่นในทาน ศีล ภาวนา ตามแบบที่หลวงปู่ หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสั่งสอนกันต่อ ๆ มา

    ดังนั้น..ในช่วงที่เหตุการณ์ต่าง ๆ ในพระพุทธศาสนาโด่งดังไปในทางเสียหาย พี่น้องเหล่านี้ก็ยังคงทำบุญใส่บาตรตามปกติ ไม่มีลดน้อยถอยลง ไม่ทราบเหมือนกันว่าที่อื่นเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ? จำพวกประเภทเข้าไปคอมเมนต์ว่า "กูเลิกทำบุญนานแล้ว" "แบบนี้แหละที่กูไม่ทำบุญ" ก็คงจะเป็นประเภท "ดีแต่พูด" หรือที่เรียกกันว่า "เกรียนคีย์บอร์ด" เท่านั้น ก็คือ
    ไปคอมเมนต์เอามัน โดยไม่ได้คิดว่ากำลังก่อทุกข์ก่อโทษให้กับตัวเอง ด้วยกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต

    สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายสำนึกได้ แก้ตัวทัน ก็ถือว่าเสมอตัว ถ้าสำนึกไม่ได้ แก้ตัวไม่ทัน ขอขมาพระรัตนตรัยไม่ทัน ก็คาดว่าทางเบื้องล่างคงเตรียมต้อนรับน้องใหม่ในเวลาอีกไม่นาน..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,929
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,755
    ค่าพลัง:
    +26,620
    เรื่องต่อไปเป็นงานของวัดท่าขนุนช่วงสิ้นเดือนนี้ ก็คือการบวงสรวงไหว้ครูประจำปี และเป่ายันต์เกราะเพชร ซึ่งต้องบอกว่าห่างหายไปค่อนข้างจะนาน แต่ว่าปีนี้มีวันเสาร์ ๕ คือวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ ๒ ครั้ง และกระผม/อาตมภาพได้รับคำสั่งให้จัดงานทั้ง ๒ ครั้ง แปลว่าปีนี้สถานการณ์ประเทศชาติ หรือสถานการณ์ของโลกคงจะไม่ดีเป็นอย่างยิ่ง

    แต่ที่มากล่าวถึงในที่นี้ก็คือบรรดาท่านทั้งหลายซึ่งจองที่พักมาภายในวัด ขอเรียนถวายท่านที่เป็นพระภิกษุสามเณร และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายว่า ที่พักภายในวัดนั้นมีน้อยมาก ถ้าหากว่าใครมาก่อนก็ได้ที่พักก่อน ใครมาทีหลังคงต้องไปหาที่พักภายนอก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะเต็มตั้งแต่อำเภอไทรโยค อำเภอทองผาภูมิ ไปยันอำเภอสังขละบุรี..! ญาติโยมส่วนหนึ่งมีที่มาพักอยู่ในตัวเมืองกาญจนบุรีกันทุกปี..!

    ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านทั้งหลายควรอย่างยิ่งที่จะต้องจองที่พักล่วงหน้าเอาไว้ก่อน สมัยนี้การจองออนไลน์หรือจองทางโทรศัพท์เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก อย่าได้หวังว่าจะพึ่งที่พักภายในวัด เพราะส่วนใหญ่ก็แทบจะต้องจับซ้อนกันให้ท่านทั้งหลายเพียงพอจะมีที่พักแล้ว..!

    อีกเรื่องหนึ่งก็คือทางวัดสันโป่ง เมดิเตชั่น เซ็นเตอร์ ฮกซุน ราชอาณาจักรนอร์เวย์ ขออนุญาตเปิดวัดรับญาติโยมให้เข้ามาร่วมพิธีรับยันต์เกราะเพชร ตามเวลาของทางวัดท่าขนุน ซึ่งก็คงต้องลบ ๕ ชั่วโมง เนื่องเพราะว่าราชอาณาจักรนอร์เวย์นั้น เวลาช้ากว่าเมืองไทย ๕ ชั่วโมง ก็แปลว่าในขณะที่เมืองไทยของเราเริ่มการเป่ายันต์เกราะเพชรรอบแรกตอน ๑๐ โมงเช้า ทางด้านวัดสันโป่ง เมดิเทชั่น เซ็นเตอร์ ฮกซุน ก็จะต้องพร้อมและเตรียมภาวนารอรับการสงเคราะห์จากพระท่านในเวลาตีห้าของที่นั่น ก็ขออาศัยเสียงนี้แจ้งให้กับญาติโยมทางด้านโน้นได้ทราบว่า พยายามบวก ลบ คูณ หาร เวลาให้ตรงกันหน่อย แล้วขณะเดียวกัน ก็เผื่อเอาไว้สัก ๕ นาที ๑๐ นาที พูดง่าย ๆ ว่า "เกินดีกว่าขาด"

    อีกเรื่องหนึ่งก็คือกระผม/อาตมภาพเพิ่งจะฟื้นจากอาการไข้ ลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) ก็มานิมนต์ให้ไปขี่อูฐชมแหล่งโอเอซิส ที่เรียกกันว่า "ทะเลสาบจันทร์เสี้ยว" แถวเส้นทางสายไหม ประเทศจีน อันเป็นสถานที่ซึ่งกระผม/อาตมภาพอยากจะไปเป็นที่สุดแห่งหนึ่ง พูดง่าย ๆ ว่าหลับตาลงก็ยังมองเห็นทะเลสาบจันทร์เสี้ยว แหล่งโอเอซิสที่อยู่ยั้งยืนยงมาเป็นพัน ๆ ปี แต่ว่าถ้าหากว่าร่างกายไม่แข็งแรง ก็ไม่ควรที่จะร่วมขบวนไป โดยเฉพาะครั้งนี้จัดว่าเป็น "ทริปปิด" เราต้องการแค่รถตู้เดียวเท่านั้น ถ้าใครคิดจะร่วมทางก็รีบติดต่อลูกกิฟท์ไปทางเติมเต็มทราเวลเป็นการด่วน

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันเสาร์ที่ ๒๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...