เรื่องเด่น อริยมรรคมีองค์แปด เรื่องสัมมาวาจา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 5 ธันวาคม 2016.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385
    -d8sCSTSZcCA1Hl0R1og6tl_28uJpRmey2Uly-KQDKz&_nc_ohc=Z4GdeVLGmZkAX874HFb&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg
     
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385
    หลายชีวิต แสดงออกว่า เป็นผู้รู้ เป็นผู้มีประสบการณ์ แต่ ไม่อาจควบคุมการเบียดเบียนด้วยวาจา
    ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ที่ประทุออกมาเป็นคำพูด ก่อกรรมก่อเวรได้
    เป็นธรรมพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคน ที่มีสามัญสำนึกในการให้เกียรติชีวิตอื่น ไม่เบียดเบียนใคร เป็นธรรมของมนุษย์ เป็นธรรมของเทวดา

    สิ่งที่คิดว่าเป็นของวิเศษที่ได้รู้เห็นมา จะมีความหมายอะไร ถ้าไม่เริ่มต้นปฏิสัมพันธ์ด้วยวาจาที่เป็นสัมมาวาจา
     
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385
    "สุนขนรก - นรกสำหรับคนปากไม่ดี"


    ยมโลกียนรกขุมที่ 9 มีชื่อว่า "สุนขนรก" ในนรกขุมนี้เต็มไปด้วยสุนัข และสุนัขก็เป็นสุนัขของนรก ไม่ใช่สุนัขตามที่มาอาศัยวัดที่เราเลี้ยงกันอยู่ เป็นสุนัขที่ตัวใหญ่มาก มีอยู่มากเป็นหลายฝูงปริมาณนับไม่ได้ ท่านจำแนกบรรดาสุนัขหรือว่าหมานรกพวกนี้ไว้มีอยู่ 5 จำพวกด้วยกันคือ
    25aa.png สุนัขนรก 5 จำพวก 25aa.png
    1. หมานรกดำ เรียกว่าหมาสีดำ
    2. หมาสีขาว
    3. หมาสีเหลือง หมาสีเหลืองนี่หมาพระกระมัง น่ากลัวพระจะตกนรกไปเป็นหมาสีเหลือง
    4. หมาสีแดง
    5. หมาสีด่าง
    นี่ท่านจำแนกตามพระบาลีไว้อย่างนี้ ผมก็ว่าตามพระบาลี นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะเอาเรื่องที่เห็นนรกมาพูดให้ฟัง นี่ผมเห็นตามหนังสือที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอน
    บรรดาหมานรกทั้ง 5 จำพวกนี้มีรูปร่างใหญ่โตมาก และท่านบอกว่าน่าเกรงกลัวเป็นอย่างยิ่ง ก็ต้องกลัวแน่มันกัดไม่เลือก ก็เหมาะสมกับบุคคลที่ด่าเขาไม่เลือก ที่ว่าเขาไม่เลือก ที่นินทาไม่เลือก สงสัยไม่เลือก และไม่เลือกว่าใคร เห็นหน้าเข้าเมื่อไรคิดว่าเขาเป็นศัตรูของเราเสียหมด นี่พวกนี้เมื่อลงไปแล้วบรรดาหมาพวกนี้มันก็ไม่เลือกเหมือนกัน
    ไอ้คนเรานี่มันแปลก ถ้าหากว่าจิตมันชั่วล่ะก็ ถ้าบางทีใครเขาไปตำหนิติเตียนเข้าว่าเราชั่ว ไอ้เราก็เลยชั่วใหญ่ คิดว่าเราทำความดีคนที่เขามีความดีน่ะไม่มีใครเขาติ ถึงแม้ว่าจะติเขาก็ไม่สะเทือน อย่างองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถูกด่าถูกนินทาท่านก็เฉย นี่คนดีซะแล้วก็ไม่มีอะไรชั่ว
    แต่สำหรับคนชั่วบางทีเขาไม่ติไม่ด่าไม่ว่า ก็นึกว่าเขาติเขาด่าเขาว่าตน เพราะอารมณ์จิตเป็นอกุศลทั้งหลาย พวกนี้ลงนรกไม่ต้องเรียกว่าไม่มีทางล่ะ จะทำตัวอย่างไรก็ตามไม่มีทางที่จะพ้นนรก ดูอารมณ์ของนรกให้ดีนะ
    ท่านกล่าวต่อไปว่า ย่อมถูกหมานรกไล่ขบกัดอยู่ตลอดเวลา ไอ้เจ้าหมานรกนี่มันไม่มีเวลาพัก จะไปหาเวลาที่มันนอนมันพักผ่อนน่ะไม่มี และท่านกล่าวต่อไปว่า ภาวะเหมือนกับสัตว์หมาป่าที่มันไล่กัดเนื้อ ท่านว่าอย่างนั้น และนอกจากจะมีหมานรกดังกล่าวแล้ว นรกขุมนี้ก็ยังปรากฏว่ามีฝูงแร้งฝูงกา
    25aa.png แร้งกานรก 25aa.png
    ไอ้แร้งกานรกนี้ก็มาอีกแล้ว มากเหมือนกัน แร้งกานรกพวกนี้มันก็มีลักษณะประหลาด คือว่าปากของมันเป็นปากเหล็ก แล้วที่ตีนของมันก็มีสภาพเป็นเหล็กลุกแดงเป็นไฟโชน ปากเหล็กลุกแดงโชน เหล็กร้อนเท้าก็แดงโชน เป็นเหล็กไฟร้อนแลดูน่ากลัว แหม ท่านก็เรียงไว้อย่างนี้ซะเรื่อย ไม่ต้องไปแลดูก็ได้ มันกลัวอยู่แล้ว
    เมื่อมันเห็นสัตว์นรกพวกนี้เข้าก็พากันบินมาจิกที่ลูกตาบ้าง จิกที่หูบ้าง ที่คอบ้าง ที่อกบ้าง ก็รวมความว่ามันจิกไม่เลือกก็แล้วกัน ไอ้หมาก็กัดไอ้แร้งกาก็จิก แหม...ก็แย่สิ ทำให้ร่างกายของสัตว์นรกทั้งหลายเหล่านั้นกระจัดกระจาย มันได้เนื้อมันก็เคี้ยวกินแบบเอร็ดอร่อย
    ทำอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเนื้อหมด เนื้อหมดไปแล้วเนื้อเกิดใหม่ มันก็เล่นแบบนั้นอีก พอเนื้อหมดมันก็แทะกระดูก กระดูกเหี้ยนไปแล้วก็เกิดใหม่ เกิดใหม่หมาก็แทะใหม่ เจ้าแร้งเจ้ากามันก็จัดการใหม่ตามเรื่อง จนกว่าจะสิ้นกฎของกรรม
    25aa.png กฎของกรรมเพราะเป็นคนปากร้าย 25aa.png
    ...นรกขุมนี้ที่ถูกสุนัขบ้าง แร้งกาจิกบ้าง ท่านกล่าวว่าเพราะในชาติก่อนคือสมัยที่เป็นมนุษย์ เขาเป็นคนปากกล้าสามานย์ ปากร้าย โฉดเขลา เป็นพาล ไม่ประมาณในวาจา ระวังให้ดีนะขอรับ...วาจาเป็นของสำคัญ คือไม่มีการประมาณในวาจา อยากจะว่า อยากจะติ อยากจะด่า อยากจะทำอะไรก็ทำตามชอบใจ
    แล้วก็สามารถจะด่าบิดามารดาก็ได้ ด่าตำหนิติเตียนครูบาอาจารย์ก็ได้ ด่าปู่ย่าตายายก็ยังได้ ด่าพี่ชายพี่หญิงก็ยังได้ ว่าเสียให้เจ็บให้แสบให้เขาสะเทือนใจ หรือพอโกรธขึ้นมาก็ด่าว่าไม่เลือกหน้า ไม่ว่าจะเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ แม้แต่ผู้ทรงศีลทรงธรรม เช่น สมณะชีพราหมณ์ ภิกษุสามเณรก็ไม่เลือก ด่าว่าตามชอบใจของตน
    และไม่ด่าอย่างเดียว บางทีคนทั้งหลายที่เขาเข้ามาก็อยากจะทำตัวเป็นคนดีเป็นคนเด่น นินทาคนโน้น แคะไค้คนนี้ ตำหนิคนโน้น ว่าคนนั้นทำไม่ดีคนนี้ทำไม่ดี เขาไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ บางทีก็บอกแล้วสอนแล้วเตือนแล้วแบบโลลุทายี เป็นอันว่าปากไม่ดีอย่างนี้ เพราะผลทุจริตอันหยาบช้า จึงบันดาลให้มาเกิดในนรกขุมนี้ ต้องเสวยทุกขเวทนาอย่างสาหัส
    25aa.png ชอบด่าว่าและริษยาเป็นอาจิณณกรรม 25aa.png
    และขอบรรดาท่านพุทธบริษัทจงอย่าลืมว่า พวกนี้ลงนรกขุมใหญ่มาแล้ว คนลงด่าอย่างนี้เป็นปกติ มีอารมณ์อิจฉาริษยาอย่างนี้เป็นปกติ มีความระแวงสงสัยเป็นปกติ คิดว่าคนโน้นเขาจะว่าเรา คนนี้เขาจะด่าเรา คนนั้นเขาคิดประทุษร้ายเรา อารมณ์อย่างนี้เป็นอารมณ์อกุศลเป็นอาจิณณกรรม กรรมมันก็ตาม
    ถ้าเป็นอาจิณณกรรม ท่านบุคคลผู้นั้นตายจากความเป็นมนุษย์ ถึงแม้จะบวชเป็นพระตลอดกาลตลอดสมัยก็ไปอเวจีมหานรก ถ้ายิ่งเป็นพระก็ยิ่งไปง่ายสบาย ๆ



    พระราชพรหมยาน,ธัมมวิโมกข์ (2531)91,52-55
    Facebook : นิตยสารธัมมวิโมกข์ วัดท่าซุง
     
  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385


    สันตุสสโกวาท ลำดับที่ ๕ : อย่าเชื่อใจ คนโกหก | หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก

    -----------------------------

    ที่มา https://www.youtube.com/@LuangporInthawai
     
  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385
    “คิดเล่นๆ”
    คนที่ชอบตำหนิติติง กล่าวโทษผู้อื่นโดยไม่มองความผิดของตัวเองเลย มีอยู่มากในสังคม ลองคิดเล่นๆในมุมนี้ดูบ้างก็ดีว่า การที่ใครจะวิพากษ์วิจารณ์หรือคอมเมนต์ใคร นั่นหมายความว่า คนนั้นต้องมีข้อมูลหรือองค์ความรู้ที่มากกว่าอีกฝ่ายหนึ่งจึงจะทำได้ดี ดังนั้น การที่เรามักตำหนิผู้อื่นกล่าวโทษผู้อื่นตลอด เมื่อคิดตามมุมนี้ ก็เท่ากับเรามีมากกว่า เรานั่นแหละที่เป็นจอมทุกข์โทษเวรภัยชั่วร้ายขั้นสุด สิ่งที่เราคิดและพูดจึงมีแต่เรื่องเลวร้าย เพราะความเลวของเรามีมากจนล้นออกไป...

    ?temp_hash=2c5b30aa722b3b187dc0ec3d9edaffda.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385
    ผู้เข้าถึงธรรม และตื่นแล้วด้วยธรรมที่แท้จริง
    ไม่ได้มีปิติจากการได้ใช้วาจาด่าว่าผู้อื่น แล้วเกิดรู้สึกสะใจ มันในอารมณ์ที่ได้ด่า
    แม้สิ่งที่พูดออกไป ไปจำมา หรือคิดได้เอง(บางส่วน) แล้วตรงกับพุทธพจน์บ้าง


    แล้วคนสังคมจำนวนไม่น้อยก็ดูจะชื่นชอบ และยกย่องกัน

    เป็นทายาทกรรม ร่วมรับกรรมกันไป....
     
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385
    ยุคนี้สมัยนี้เป็นอะไรที่พุทธบริษัททั้งหลายลำบากมาก เพราะว่าเป็นยุคของ "ฆราวาสสอนธรรม" ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่าฆราวาสที่เก่งจริงเข้าถึงจริงตายหมดแล้ว..! เนื่องเพราะว่าสังขารความเป็นฆราวาส รองรับความบริสุทธิ์สูงสุดไม่ได้ ความบริสุทธิ์สูงสุดอย่างเช่นพระอรหันต์ มีคุณอนันต์และมีโทษมหันต์ ใครให้ความเคารพให้ความนับถือ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนก็มีคุณอนันต์ ใครที่ล่วงเกินก็มีโทษมหันต์ เปรียบเหมือนกับไฟ เราจะให้หุงต้ม ใช้ให้ความอบอุ่น ใช้ป้องกันสัตว์ร้ายต่าง ๆ ก็ได้ แต่ถ้าเผลอไปจับเข้าเมื่อไรก็ไหม้ พอง เดือดร้อน ไฟไม่ได้ทำอะไรเลย
    ไฟอยู่ของไฟเฉย ๆ..!

    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗

    ควรฟังฉบับเต็มจากคลิบ....



    สาธุธรรม คำเตือนจากพระอาจารย์ครับ
     
  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385
    ?temp_hash=8b02b81ffcf334dc9099d91e632258fc.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385
    ?temp_hash=e9b3a48e2d18d352554467f73bffc61c.jpg
     
  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,079
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,094
    ค่าพลัง:
    +70,385
    คนตื่นธรรมวินิจฉัย

    ในเรื่องปัจจุบันนี้เกี่ยวกับ "หมอดู" และ "คนตื่นธรรม" จะว่าไปแล้วเป็นเรื่องของการเอากิเลสไปชนกัน..! ในส่วนของหมอดู กระผม/อาตมภาพตำหนิเขาน้อย ตำหนิเขาน้อยตรงที่ว่าเขาแค่ปากไว แล้วก็ไปพูดกระทบกระเทือนในลักษณะปรามาสพระพุทธเจ้าว่า พระพุทธเจ้าก็ไม่แน่ว่าจะรู้จริงทั้งหมด ซึ่งตรงนี้ไปสวนกับความเชื่อของพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ เลยเจอ "ทัวร์ลง" เยอะหน่อย..!
    ในเรื่องของหมอดูนั้น ถ้าหากว่ามีจรรยาบรรณและมีความคล่องตัวจริง ๆ สามารถอาศัยได้ในระดับหนึ่ง ที่กระผม/อาตมภาพบอกไปวันก่อนก็คือได้ ๖๐ เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ใช่ไปฝากชีวิตไว้กับหมอดู อย่าลืมว่า ๔๐ เปอร์เซ็นต์ที่นอกเหตุเหนือผล นั่นก็คือคนที่ไม่ยอมจำนนต่อชะตากรรม ดิ้นรนฝ่าฟันจนกระทั่งผ่านพ้นไปได้
    นั่นคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าเชื่อว่าพวกเรามีศักยภาพเพียงพอ พระองค์ท่านถึงได้เสียเวลามาสอนพวกเราอยู่ถึง ๔๕ ปี ไม่อย่างนั้นถ้าหากว่าเชื่อหมอดูอย่างเดียว ก็ไม่ต้องทำมาหากินอะไรแล้ว เขาบอกว่าไม่ดีก็ไม่ดีไปตลอดชีวิต เขาบอกว่าดีแล้วจะดีไปตลอดชีวิตได้อย่างไร ? เพราะว่าเราเองก็ทำดีไม่ทั่ว ทำชั่วไม่หมด ก็ต้องมีขึ้น ๆ ลง ๆ ดีบ้าง ชั่วบ้าง
    แต่ว่าในส่วนของบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้ตื่นธรรมหรือผู้รู้ธรรมนั้น การสอนธรรมของท่านปราศจากสาราณียธรรม ตรงนี้อันตราย ท่านที่เรียนนักธรรมชั้นตรีมาก็รู้อยู่แล้ว สาราณียธรรม ธรรมอันเป็นเครื่องยังให้ทุกคนระลึกถึงกัน เมื่อจะคิดก็คิดถึงผู้อื่นด้วยเมตตา เมื่อจะพูดก็พูดถึงผู้อื่นด้วยเมตตา เมื่อจะกระทำก็กระทำต่อผู้อื่นด้วยเมตตา ไม่ใช่อยู่ในลักษณะของด่าสาดเสียเทเสีย ไป "บูลลี่" หรือว่า "ด้อยค่า" ความรู้ของคนอื่น
    ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไปนึกถึงปิรามิดพระพุทธศาสนาที่กระผม/อาตมภาพเคยเปรียบเทียบไปแล้ว ส่วนของพิธีกรรมพิธีการก็คือฐานใหญ่ที่สุด นี่คือพุทธศาสนิกชน ๘๐ - ๙๐ เปอร์เซ็นต์เลยนะ..! ขึ้นมาถึงระดับกลาง ก็คือ ศีล สมาธิเบื้องต้น พวกที่จะใช้ปัญญาได้จริง ๆ ก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญาครบถ้วน ไปอยู่ที่ยอดปิรามิดนิดเดียว
    ถ้าหากว่าเราไป "ด้อยค่า" คนอื่น หรือไป "บูลลี่" คนอื่น ถือว่าคนอื่นตื่นไม่เท่ากูก็แปลว่าชั่วหมด..! อย่างนั้นใช้ไม่ได้ เราจะไปอ้างว่าเรื่องของธรรมะไม่ต้องเอาใจใคร..ก็ถูก แต่ลักษณะของการสอนธรรม เราสอนด้วยกิเลส หรือว่าเราสอนเพราะเจตนาให้ผู้อื่นรู้ตาม ?ถ้าท่านทั้งหลายลองไปฟังดูแล้วก็จะรู้
    ถ้าหากว่าท่านตั้งใจสอนให้ผู้อื่นรู้ตาม ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหาคอนเท็นต์หรือว่าแนวทางที่โลดโผน เพื่อที่จะเป็นติ๊กต็อกเกอร์ หรือเป็นยูทูบเบอร์ เพราะลักษณะอย่างนั้นก็คือการดึงคนเข้ามา ดึงคนเข้ามาเพื่ออะไร ? ก็ต้องหวังยอดวิว หวังยอดไลค์..!
    ดังนั้น..เรื่องพวกนี้เราอย่าไปกล่าววาจาอันเป็นเหตุให้เถียงกัน พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดแล้วว่า วาจาอันเป็นเหตุให้เถียงกันทำให้ต้องพูดมาก บุคคลที่พูดมาก จิตใจย่อมฟุ้งซ่าน บุคคลที่ฟุ้งซ่านย่อมห่างจากสมาธิ..!
    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านทั้งหลายก็ต้องเข้าใจว่าคนเราสร้างบุญสร้างกรรมมาไม่เท่ากัน เหมือนอย่างกับวิทยานิพนธ์วิเคราะห์ภพภูมิที่ ดร.ซ้วงท่านทำมา ในเมื่อสร้างบุญสร้างกรรมมาไม่เท่ากัน บุคคลที่สร้างบุญมาดีก็ได้ครูบาอาจารย์ดี สิ่งใดผิดพลาดก็แก้ไขให้ บอกกล่าวแต่ในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ถ้าหากว่าเราสร้างบุญสร้างกรรมมาไม่เท่ากัน แล้วเราดันไปสร้างด้านที่ไม่ดี ถ้าไม่โดนพวกบรรดา "คอลเซ็นเตอร์" หลอกจนหมดเนื้อหมดตัว ก็โดนหมอดูหลอกให้ไปสะเดาะเคราะห์บ้าง ไปเปลี่ยนชื่อบ้าง สารพัด แล้วแต่ละวิธีก็ล้วนแล้วแต่เสียเงินทั้งนั้น..!
    ทั้ง ๆ ที่ถ้าเราตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา โดยไม่ต้องเสียสตางค์ และเป็นการแก้ดวงที่ดีที่สุด แต่พวกเรากลับขี้เกียจ มักง่าย อะไรยากไม่ทำ สิ่งไม่ดีเกิดขึ้นแทนที่จะรีบแก้ไขด้วยการพัฒนา กาย วาจา ใจ ของตนเองให้ดีขึ้น เรากลับไปเปลี่ยนชื่อ ฟังดูแล้วว่ามันใช่หรือไม่ ? เปลี่ยนชื่อให้ตาย ถ้าความประพฤติไม่เปลี่ยน แล้วสิ่งดี ๆ จะเข้ามาได้อย่างไร ?
    จึงเป็นเรื่องพวกเราทั้งหลาย โดยเฉพาะพระภิกษุสามเณรต้องตระหนักให้มากไว้ว่า เรื่องของพระพุทธศาสนา ต่อให้ปฏิบัติไปไม่ถึงพระอริยเจ้า ก็ต้องรักษาพระไตรปิฎกเอาไว้ พูดง่าย ๆ ก็คืออย่านอกคอก เพราะว่าถ้าความนอกคอกของเรา แล้วมีคนเดินตาม..พังแน่ ๆ..! คือถ้านอกคอกเมื่อไร โอกาสที่จะไปได้ดีนั้นก็ยากแล้ว เพราะว่าไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็ไม่มีใครที่จะมีความสามารถเสมอกับพระพุทธเจ้า พระองค์ท่านวางแนวทางเอาไว้แล้ว ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ สรุปลงมาเหลือหนทาง ๘ ประการ ย่อลงมาก็คือแนวปฏิบัติ ๓ อย่าง คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
    ดังนั้น..ถ้าหากว่าใครคิดว่าจะหาทางใหม่ที่จะเก่งกว่าพระพุทธเจ้าได้ เราก็ปล่อยท่านไปเถอะ เอาที่ท่านสบายใจก็แล้วกัน เดี๋ยวตอนตายก็รู้เองว่าจะไปพบกันข้างบนหรือข้างล่าง..!


    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    คัดลอกบางส่วนจาก.. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอังคารที่ ๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗

    [​IMG]


    ที่มา https://web.facebook.com/suppachoke...8pHeL-jcy5HQ9OZyFKqZ0tgXiAkZkOjQ&__tn__=-UC*F
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...